น้ำส้มควันไม้ ได้จากการกลั่นควันสีขาวที่เกิดจากการเผาไหม้แบบสมบูรณ์ของเชื้อเพลิงจากพืชพลังงานชนิดต่าง ๆ จนได้เป็นกรดชนิดหนึ่ง

ที่เรียกกันว่า pyroligneous acid หรือ กรดไพโรลิกเนียส บ้างก็เรียกว่า wood vinegar ที่แปลว่า น้ำส้มที่ได้จากการหมักไม้ แต่ในความเป็นจริงนั้น เกิดจากการทำให้ควันที่ออกมาจากการเผาถ่านกลายเป็นของเหลว แต่การจะได้มานั้น จะต้องมีกรรมวิธีที่ต้องใช้ทั้งเวลา วัตถุดิบ และอุปกรณ์หลายอย่าง

และเชื้อเพลิงหลักส่วนใหญ่ ที่จะหาได้ ยิ่งผู้ที่ผลิต ถ่านอัดแท่ง เป็นอาชีพอยู่แล้ว ยิ่งสามารถต่อยอดได้ เพราะมีเชื้อเพลิงจาก วัตถุดิบหลายประเภท ที่เป็นพืชพลังงาน เช่น ซังข้าวโพด กะลามะพร้าว แกลบ ขี้เลื้อย ฟางข้าว ชานอ้อย ต้นมันสำปะหลัง เหง้ามันสำปะหลัง หญ้าคา หญ้าขจรจบ ไมยราบ ผักตบชวา ใบจามจุรี กะลาปาล์ม ต้นฝ้าย ต้นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากทานตะวัน เปลือกทุเรียน

วัตถุดิบเหล่านี้ เมื่อนำมาเป็นส่วนผสมของการเผาถ่านอัดแท่ง ควันที่ได้จะบริสุทธิ์ และมีคุณภาพดีพอที่จะสกัดเอามาเป็น น้ำส้มควันไม้คุณภาพได้ และยังได้ ถ่านอัดแท่ง ที่ดีอีกด้วย

แนวคิดการสกัดน้ำส้มควันไม้

การคิดค้นกรรมวิธี การผลิตน้ำส้มควันไม้ และวัตถุดิบในการนำมาแทนถ่านไม้ ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเผาถ่านโดยปกตินั้น จะมีควันที่เกิดจากการเผาถ่าน ส่วนใหญ่จะปล่อยทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น ปราชณ์ชาวบ้านหลายท่าน จึงได้คิดที่จะนำ ควันที่เกิดจากการเผาถ่าน ดังกล่าว มาใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง

ซึ่งควันในช่วงที่ ไม้กำลังเปลี่ยนเป็นถ่าน เมื่อทำให้เย็นลง จนควบแน่นแล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ จะได้สิ่งที่เรียกว่า ของเหลวสีคล้ำเหนียว ๆ ที่รู้จักกันในภาษาชาวบ้านว่า “น้ำส้มควันไม้” ซึ่งจะมีกลิ่นไหม้ของกำมะถันอยู่มาก ส่วนประกอบที่มีเป็นส่วนใหญ่ คือกรดอะซิติก มีความเป็นกรดต่ำ มีสีน้ำตาลแกมแดง และยังมีสารประกอบอีกหลายชนิดที่รวมกันอยู่ในนั้น

การทำน้ำส้มควันไม้ กรดไพโรลิกเนียส

การจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ใช่กลั่นเอาออกมาแล้วใช้ได้ทันที เพราะมีความเป็นพิษสูงมาก หากแต่จะให้ได้ประโยชน์สูงสุด จะต้องทิ้งไว้ในภาชนะ และเก็บเอาไว้ในที่ร่ม ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เพื่อให้สารประกอบหลายชนิด แยกชั้นตกตะกอนออกเป็น 3 ชั้นเสียก่อน

โดยชั้นบนสุดจะได้ น้ำมันเบา ที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ชั้นถัดมาเป็นลำดับที่สอง จะได้เป็น น้ำส้มไม้ และชั้นที่ตกตะกอนล่างสุดก็คือ น้ำมันทาร์ ซึ่งแต่ละสิ่งที่ได้ ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน

ประโยชน์ที่ได้จากน้ำส้มควันไม้

  • สูตรเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ ใช้รักษาแผลสด แผลถูกน้ำร้อน รักษาโรคน้ำกัดเท้าและเชื้อราที่ผิวหนัง เพราะสารประกอบที่ได้จากเนื้อไม้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ คล้ายยาล้างแผล และมีสารประกอบอื่น ๆ ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรคได้บางชนิด
  • สูตรเข้มข้นปานกลาง ยืนยันแล้วว่าหากผสมน้ำ 20 เท่า ราดทำลายปลวดและมด หากใช้ในความเข้มข้นสูงจะเปลือง
  • สูตรอ่อน ผสมน้ำ 50 เท่า จะสามารถใช้ป้องกันปลวก มด และสัตว์ต่าง ๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง
  • สูตรเบาบาง ผสมน้ำ 100 เท่า ใช้ฉีดพ่นถังขยะ เพื่อป้องกันกลิ่นและแมลงวัน ใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำ ห้องครัว และบริเวณชื้นแฉะ
กรดไพโรลิกเนียส จากน้ำส้มควันไม้

ข้อควรระวังในการใช้น้ำส้มควันไม้

  • ก่อนนำไปใช้ ต้องทิ้งไว้จากการกักเก็บก่อน อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้สารบางอย่างมีการตกตะกอน และเจือจาง
  • เนื่องจากน้ำส้มควันไม้ มีความเป็นกรดไม่สูงมาก แต่หากถูกสัมผัสโดนร่างกาย ในบริเวณที่บอบบาง อาจทำอันตรายได้ ควรระวังอย่าให้เข้าตา เพราะอาจทำให้ตาบอด
  • น้ำส้มควันไม้ ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นตัวเร่งปฎิกิริยา ให้สารเคมีที่ถูกผสมเข้าด้วยกัน มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ดังนั้น การนำไปใช้ทางการเกษตร จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับพืช แต่ไม่สามารถใช้แทนปุ๋ยได้
  • การใช้เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และแมลงในดิน ควรทำก่อนเพาะปลูก อย่างน้อย 10 วัน สำหรับฆ่าตัวอ่อน และทิ้งไว้เพื่อให้เจือจาง
  • การนำไปใช้ ต้องผสมน้ำให้เจือจาง ตามความเหมาะสมที่จะนำไปใช้ โดยอัตราส่วนต่างกัน
  • การฉีดพ่นผักผลไม้ เพื่อให้ดอกติดผล ควรพ่นก่อนที่ดอกจะบาน หากฉีดพ่นหลังจากดอกบาน แมลงจะไม่เข้ามาผสมเกสร เพราะกลิ่นฉุนของน้ำส้มควันไม้ และดอกจะถูกกัดกร่อนทำลาย ไม่เป็นผลดี

การเผาถ่านนั้น จะมีถ่านไม้บางส่วนที่เผาไหม้ไม่หมด การนำถ่านไม้นี้มาใช้ จะอันตราย เพราะในเนื้อถ่าน มีน้ำมันดินเป็นส่วนผสม น้ำมันดินนี้ เป็นสารก่อมะเร็ง หากนำถ่านที่มีน้ำมันดินไปใช้ จะเกิดควัน ยิ่งควันมีการเจือปนในอาหาร เช่น การปิ้งย่าง ยิ่งจะทำให้เป็นอันตรายแก่ผู้สูดดม และรับประทานอาหารที่ถูกควันนี้เข้าไป

วิธีป้องกันแบบง่าย ๆ ก็คือ ให้เผาก้อนถ่านดังกล่าวให้เกิดความร้อนทั้วทั้งก้อน ไปก่อนสักพัก เพื่อกำจัดน้ำมันดินที่เจือปนในก้อนถ่านออกให้หมด แล้วค่อยนำอาหารมาปิ้งย่าง ตามปกติ

คลังฐานข้อมูลการเกษตร

คลังฐานข้อมูล นี้ รวมข้อมูลพันธุ์พืช สัตว์ และข้อมูลเกี่ยวกับการทำเกษตรที่ควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพันธุ์พืชชนิดต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต พันธุ์สัตว์ มีทั้งสัตว์ป่า สัตว์เลี้ยง และสัตว์เศรษฐกิจ รวมไปถึงข้อมูลการทำเกษตรในระบบต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้และใช้ชีวิตให้รอดในยุคปัจจุบัน

รวมข้อมูลพันธุ์พืช

พันธุ์พืช

เช่น พืชสวนพืชไร่, พันธุ์ไม้ยืนต้น, ผลไม้, ผักสวนครัว, พืชสมุนไพร, ข้าวไทย, พืชเศรษฐกิจ

รวมข้อมูลพันธุ์สัตว์

พันธุ์สัตว์

เช่น สัตว์น้ำ, สัตว์บก, สัตว์ปีก, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ, สัตว์เลื้อยคลาน

ข้อมูลการทำเกษตร

การทำเกษตร

เนื้อหาเกี่ยวกับ แมลงศัตรูพืช, ดินและปุ๋ย, โรคพืช, โรคสัตว์ ฯลฯ

พันธุ์อะโวคาโดที่ให้ผลผลิตดีสุด

สายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีสุด ที่สวนของชาวเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกกัน ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยใช้วิธีการเสียบกิ่ง ทาบกิ่ง มากกว่าจะเป็นการขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่น ๆ

ส่วนลดช้อปปี้เดือนพฤศจิกายน กับโปร 5×5 รีบเลยก่อนหมด

ส่วนลดช้อปปี้เดือนพฤศจิกายน กับโปร 5x5 รีบเลยก่อนหมด

ผลไม้ คืออะไร

ตามปกติ ผลไม้ คือ ผลของพืชหรือต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ สามารถเรียกว่า ผลไม้ ได้ทั้งหมด

ผักออร์แกนิค คืออะไร

ความหมายของ ผักออร์แกนิค คือ พืชผักทุกชนิด ที่มีกระบวนการผลิต โดยไม่ใช้สารเคมี

ส้มแก้วสมคิด พรรณไม้ใหม่ของโลกที่คนไทยค้นพบ

ส้มแก้วสมคิด เป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก ที่นักวิจัยไทยได้ค้นพบ มีลักษณะคล้ายกับมะแปม รสเปรี้ยว รับประทานได้

น้ำส้มควันไม้ มีประโยชน์อะไรบ้าง

น้ำส้มควันไม้ ได้จากการกลั่นควันสีขาวที่เกิดจากการเผาไหม้แบบสมบูรณ์ของเชื้อเพลิงจากพืชพลังงานชนิดต่าง ๆ จนได้เป็นกรดชนิดหนึ่ง ที่เรียกกันว่า pyroligneous acid หรือ กรดไพโรลิกเนียส บ้างก็เรียกว่า